โดย
บุญพาด ฆังคะมะโน
สภาพแวดล้อมในเมืองมีส่วนประกอบของสถาปัตยกรรมตั้งแต่อาคารสูงระฟ้ารูปแบบต่างๆ
จนถึงสลัม สลับปะปนกัน ปลูกสร้างอยู่อย่างหนาแน่นและเบาบางแตกต่างกันไปใน
แต่ละพื้นที่ กับส่วนประกอบของผู้คนพื้นถิ่นและที่มาจากต่างถิ่นอาศัยอยู่อย่างแออัดยัดเยียด
แทรกตัวอยู่ตามช่องว่างของอาคารและที่นั่งแคบๆ ในตัวรถบนท้องถนน การดำรงชีวิตของในเมืองอาศัยเงินเป็นหลักในการแลกปัจจัยต่างๆ
ที่จำเป็น สิ่งต่าง ๆ ที่ได้มาด้วยการซื้อเพราะแต่ละคนไม่ผลิตสิ่งที่จำเป็นต่อตนเอง
แต่จะผลิตสิ่งๆ หนึ่งขายเพื่อให้ได้เงินมาแล้วนำเงินไปซื้อสิ่งที่ตน
ต้องการ บางคนทำลัดขั้นตอนไม่ต้องผลิต ไม่ต้องขาย เมื่อต้องการเงินหรือสิ่งของก็ไปปล้น
ไปขโมยของผู้อื่น
ความวุ่นวายของสังคมเมืองเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้คนเมินเฉยต่อความงามของสภาพแวดล้อม
ไม่ใช่ไม่เห็นคุณค่าแต่ไม่มีเวลาคิดหรือไม่เคยคิดถึงความสำคัญของสภาพแวดล้อม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสภาพแวดล้อมภายนอกพื้นที่ของตน ส่วนใหญ่สนใจแต่สภาพแวดล้อมภายในบ้านหรืออาคารที่ตนอยู่เท่านั้น
อาจเป็นไปได้ที่แต่ละคนเห็นว่าภายนอกบ้านหรือนอกอาคารของตนไม่ใช่พื้นที่ของตน
จึงไม่ได้ให้ความสนใจกับสภาพแวดล้อมภายนอก สาเหตุสำคัญประการหนึ่งของเรื่องนี้คือการขาดมิตรภาพที่ดีต่อบุคคลที่อยู่ข้างเคียงหรือเพื่อนบ้าน
ความคิดที่จะร่วมมือร่วมใจกันดูแลปรับปรุง พัฒนาสภาพแวดล้อมของกันและกันจึงไม่มี
ต่างคนต่างถือว่าไม่ใช่ธุระของตน ใช้เวลากับการทำมาหากินและอยู่กับครอบครัวดีกว่าเสียเวลากับเรื่องสภาพแวดล้อมที่เป็นเรื่องไร้สาระ
ช่องว่างระหว่างมิตรภาพทำให้คนเห็นแก่ตัว
ไม่รับผิดชอบประโยชน์ของผู้อื่น มิหนำซ้ำยังสร้างปัญหาและภาระให้กับผู้อื่น
เช่นกรณีของการทิ้งขยะหรือสิ่งปฏิกูลบริเวณที่รกร้าง ซอกอาคาร คลอง
ใต้สะพาน เป็นต้น รวมไปถึงการทำลายทรัพย์สินสาธารณะด้วย โดยปกติคนจะไม่ทิ้งสิ่งปฏิกูลหรือขยะลงบนพื้นที่ของตน
ที่ทิ้งเพราะไม่ใช่พื้นที่ของตน ไม่ต้องรับผิดชอบ ถึงแม้ว่าในระยะยาวจะมีผลกระทบมาถึงตนก็ตาม
อย่างกรณีของผู้ที่อาศัยอยู่ตามริมคูคลองในกรุงเทพฯ เขาจะทิ้งขยะและสิ่งปฏิกูลลงใต้ถุนบ้านซึ่งเป็นคูคลองหรือทิ้งออกไปนอกบ้าน
เพราะพื้นที่ของเขาคือในบ้านเท่านั้น แม้สภาพแวดล้อมจะสกปรกและเน่าเหม็นเพียงใด
แต่ยังมีการทิ้งขยะและสิ่งปฏิกูลต่าง ๆ ลงในแม่น้ำใต้ถุนบ้านและข้างๆ
บ้านทุกวันเขาไม่เคยคิดว่าจะไม่ทิ้งแต่จะคิดว่าทำไมผู้รับผิดชอบจึงไม่มาเก็บไปให้พ้นตาพ้นจมูกหากถูกเก็บไปแล้วผู้อื่นจะต้องรับกลิ่นเน่าเหม็นก็ช่างประไร
ตนเองไม่ต้องเดือดร้อนกับกลิ่นเน่าเหม็นก็พอแล้ว
ที่เขียนมายืดยาวเพื่อจะชี้ให้เห็นว่าความมีจิตสำนึกของทุกคนเป็นเรื่องสำคัญที่น่าจะ
นำพาสภาพแวดล้อมไปในทางที่ดี ภูมิทัศน์ของเมืองๆ หนึ่งจะงดงามได้จะต้องได้รับการดูแลตั้งแต่ผังเมืองที่ลงตัวในรูปแบบและสัดส่วนเหมาะสมกับการเติบโตของเมือง
เป็นสัดส่วนกับจำนวนประชากร สิ่งก่อสร้างทางสถาปัตยกรรม เส้นทางจราจร
ระบบสาธารณูปโภคอื่นๆ รวมถึงประโยชน์ใช้สอย เป็นที่พักผ่อนและเกิดคุณค่าทางจิตใจ
การสร้างสภาพแวดล้อมให้มีระเบียบ สะอาดและสวยงามนั้น นอกจากการจัดการทางด้านการสร้างการปรับปรุง
พัฒนาและดูแลสภาพแวดล้อมแล้ว การสร้างประติมากรรมติดตั้งและประกอบในสถานที่หรือสภาพแวดล้อมต่างๆ
เป็นอีกส่วนหนึ่งควรจะให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
ประติมากรรมจะเข้ามามีบทบาทอย่างมากต่อภูมิทัศน์ที่จะทำให้เกิดคุณค่าทาง
ความงามและความหมายทางด้านศิลปะรวมทั้งคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของสถานที่รวมไปถึงการแก้ปัญหาทัศนะอุจาดในบางพื้นที่ของเมืองด้วย
การสร้างประติมากรรมเพื่อจุดประสงค์ในการแก้ปัญหาทัศนะอุจาดนับว่าเป็นเรื่อง
สำคัญที่จะทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีของเมืองและสร้างความร่วมมือระหว่างองค์กรต่างๆ
ของสังคมกับศิลปิน ตัวอย่างเช่น ภายนอกอาคารต่างๆ มักมีเครื่องปรับอากาศติดตั้งอยู่
เป็นภาพหนึ่งที่ถึงแม้ว่าจะไม่น่าเกลียดนักแต่ไม่มีใครบอกว่าเครื่องปรับอากาศสวย
มองกันแต่คุณภาพของเครื่องปรับอากาศในการให้ความเย็น นอกจากนี้ยังมีทั้งเสียง
กลิ่น และความร้อนที่ถ่ายเทออกนอกอาคาร ล้วนแต่เป็นสิ่งไม่พึงประสงค์
ศิลปินสามารถสร้างสรรค์ผลงานประติมากรรมให้สามารถปิดบังเครื่องปรับอากาศ
และอาศัยเสียงจากเครื่องปรับอากาศเป็นเสียงของประติมากรรม สามารถเปลี่ยนจากสิ่งที่ไม่น่ามองให้เป็นสิ่งที่น่าสนใจได้
ส่วนความเหมาะสมของขนาด วัสดุ ในการสร้างประติมากรรมและระบบการกำจัดกลิ่นและความร้อนจากเครื่องปรับอากาศที่อยู่ภายในประติมากรรมศิลปินจะได้ประสานงานกับบุคคลและองค์กรต่างๆ
ในการช่วยแก้ปัญหา ทำให้เกิดความร่วมมือกันทุกๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยกันแก้ปัญหาสภาพแวดล้อมของเมือง
ในแถบ TACHIGAWA
ประเทศญี่ปุ่นเป็นตัวอย่างที่ดีที่ใช้ประติมากรรมแก้ปัญหาสภาพ
แวดล้อมและสร้างความงามของภูมิทัศน์ เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยประติมากรรม
ทั้งผลงานติดตั้งโดดเด่นเป็นสง่าและผลงานที่กลมกลืนไปกับรูปแบบและสภาพของสิ่งก่อสร้างทางสถาปัตยกรรมและชีวิตของผู้คนที่ได้มีโอกาสเข้าไปสัมผัสและมีส่วนร่วมกันสถานที่
ผลงานประติมากรรมเกิดจากกิจกรรมการจัดโครงการในลักษณะของ Sculpture
Symposium ศิลปินญี่ปุ่นและศิลปินต่างชาติที่รับเชิญเข้ามาสร้างผลงานประติมากรรมของแต่ละคนจำนวนนับร้อยชิ้น
ติดตั้งตามจุดต่าง ๆ ทั้งในอาคาร นอกอาคาร ทางเดิน และพื้นที่ว่างที่ในอดีตมีปัญหาไม่น่ามอง
รวมทั้งพื้นที่ใช้สอยบางส่วนที่สภาพและรูปแบบธรรมดาๆ จะใช้ประติมากรรมในการแก้ปัญหาให้เกิดความงามแปลกใหม่
น่าสนใจ ชักชวนผู้คนให้เข้ามาใช้สอย พักผ่อนหย่อนใจ และชมความงามของประติมากรรมและความงามของพื้นที่
เนื่องจากผลงานประติมากรรมที่ติดตั้งไว้มีจำนวนมากและกระจายกันอยู่ทั่วไป
การที่จะชมผลงานให้ครบถ้วนจึงเป็นเรื่องยาก เขาจึงได้ทำแผ่นพับที่มีรายละเอียดของแผนที่
ตำแหน่งที่ตั้งเป็นหมายเลข ทิศทางการเดินชมผลงานอย่างต่อเนื่องและครบถ้วน
รวมทั้งรายละเอียดของศิลปินและผลงานที่มีทั้งภาพศิลปินภาพผลงานและคำอธิบายรายละเอียดต่าง
ๆ ที่สะดวกในการค้นหา ทำให้สามารถชมผลงานได้สะดวกเข้าใจง่ายและเกิดความพอใจและความสุขเมื่อได้ชมทั้งภูมิทัศน์งดงามและประติมากรรมนานารูปแบบ
หลากหลายเนื้อหา มีคุณค่าทางความงามและมีบทบาทในการสร้างภูมิทัศน์ของเมืองเป็นอย่างมาก
ความมีจิตสำนึกในการร่วมใจกันดูแลสภาพแวดล้อมของเมืองให้มีความงามของภูมิทัศน์ได้นั้น
ต้องเป็นการร่วมประสานกันอย่างจริงจังของทุกฝ่ายในทุกๆ ด้าน ทั้งภาครัฐ
เอกชน และ ประชาชนทั่วไป สิ่งสำคัญที่สุดคือรัฐบาลจะต้องให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ในการส่งเสริมให้เกิดกิจกรรม
และสนับสนุนงบประมาณ เพื่อสภาพแวดล้อมโดยมีศิลปะเป็นส่วนร่วมให้สิ่งแวดล้อมงดงามด้วยศิลปะ
และ ศิลปะงดงามอยู่คู่กับสภาพแวดล้อมเพื่อให้เมืองเป็นแดนศิวิไลซ์อย่างแท้จริง |