โดย
สนั่น รัตนะ
สืบเนื่องจากการนำคณะทำงานวิจัยออกเก็บข้อมูลโครงการศึกษาค้นคว้าวิจัย
ลายรดน้ำของกรมศิลปากร ซึ่งมอบหมายให้วิทยาลัยช่างศิลปเป็นผู้ดำเนินงาน
ในปีงบประมาณ 2546 นี้ ได้ออกสำรวจเก็บข้อมูลในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง
ในพื้นที่ภาคเหนือได้พบเห็นมรดกศิลปวัฒนธรรมทางด้านศิลปกรรมที่เป็นเอกลักษณ์
โดดเด่น และมีการสืบทอดกันมายาวนาน จึงทำให้เกิดข้อเขียนเรื่องนี้ขึ้น
เพื่อเผยแพร่ความรู้ที่ได้รับในมุมมองของผู้เขียนแก่ผู้สนใจโดยเฉพาะต่อการศึกษาค้นคว้าศิลปวัฒนธรรมแบบประเพณี
เรื่องลายคำล้านนา
คำว่า ลายคำ ในความหมายของศิลปกรรมล้านนา
คือ ลวดลายที่ประดับตกแต่งสิ่งของเครื่องใช้ อาคารสถานที่ด้วยทองคำเปลว
มีลวดลายสีทองบนพื้นสีแดงหรือดำ หากดูแต่ผิวเผินแล้วจะเห็นเป็นเพียงลวดลาย
2 มิติ ที่ใช้วิธีการประดับลวดลายโดยการฉลุแบบแล้วปิดทองคำเปลว ซึ่งเป็นวิธีการที่นิยมใช้กันโดยทั่วไป
แต่แท้จริงแล้วการประดับตกแต่งลายคำของล้านนานั้น มีวิธีการแบบอื่นที่ต่อเนื่องจากการฉลุแบบ
หรือใช้วิธีการที่แตกต่างไป ซึ่งสามารถที่จะจำแนกวิธีการประดับตกแต่ง
ลวดลายคำได้ดังนี้
วิธีการที่
1 การฉลุแบบปิดทองคำเปลว เป็นวิธีการที่พบมากที่สุด เนื่องจากเป็นวิธีการประดับตกแต่งที่มีกระบวนการไม่ยุ่งยากซับซ้อนมากนัก
โดยวิธีการเจาะฉลุลวดลายแม่แบบกระดาษตามต้องการ แล้วนำไปวางทาบตรงส่วนที่ต้องการจะประดับตกแต่งลวดลาย
แล้วปิดทองคำเปลวลงไปตามช่องที่ฉลุลวดลายนั้นตามต้องการ
วิธีการที่
2 การฉลุแบบปิดทองคำเปลวแล้วตัดเส้น เป็นกระบวนการที่ทำต่อเนื่องจากวิธีแรกแต่ตัดเส้นรอบและเพิ่มรายละเอียดของลวดลาย
ทำให้ผลงานมีความละเอียด ประณีต คมชัดมากยิ่งขึ้น
วิธีการที่
3 การฉลุแบบปิดทองคำเปลวแล้วจารเส้น เป็นกระบวนการที่ต่อเนื่องจากวิธีการแรกเช่นเดียวกัน
แต่ใช้วิธีการเติมรายละเอียดของลวดลายที่มีความละเอียดมากกว่าการเขียนตัดเส้น
โดยใช้เหล็กแหลมจารลวดลาย (ขูด ขีด) รายละเอียดต่าง ๆ สามารถที่จะทำ
ได้มาก จะสังเกตเห็นร่องรอยของการจารเส้นที่ซ้ำ ๆ กันหลายครั้ง ทำให้เกิดเป็นเส้นแตก
ๆ ไม่ ตรงเส้นรอยเดิม และมีร่องรอยของเส้นจารนั้นเป็นร่องลึกลงไปในส่วนที่เป็นพื้นของผลงานนั้น
วิธีการที่
4 การเขียนลายรดน้ำลงรักปิดทอง เป็นวิธีการประดับตกแต่งที่แตกต่างไปจาก
3 วิธีการที่กล่าวมา โดยจะต้องอาศัยช่างที่ความชำนาญพิเศษเฉพาะด้าน
และต้องใช้เวลาในการทำงาน เพราะต้องอาศัยความจัดเจนของการเขียนเส้นพู่กัน
การเตรียมพื้น การเตรียมน้ำยาหรดาล การเตรียมรักเช็ด และการเช็ดรักปิดทอง
รดน้ำ ที่มีระเบียบแบบแผนเป็นขั้นตอนที่จะต้องทำตามลำดับก่อนหลัง และยุ่งยากสลับซับซ้อนมากกว่า
การประดับตกแต่งลายคำล้านนานั้น
จะปรากฏให้เห็นบนบานประตู หน้าต่าง ฝาผนังของโบสถ์ วิหาร หรือตู้พระไตรปิฎก
หีบพระธรรม ธรรมาสน์ ประกับคัมภีร์ใบลาน สิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นไม้สัก
หรือปกสมุดข่อย ที่เป็นเนื้อกระดาษข่อยหรือกระดาษสา นอกจากนี้ยังพบบนภาชนะสิ่งของ
เครื่องใช้ที่เป็นเครื่องเขิน มีโครงสร้างจากการสานไม้ไผ่เป็นรูปทรงภาชนะ
สิ่งของเครื่องใช้ เช่น เชี่ยนหมาก ขันแก้ว (พานดอกไม้ธูปเทียน) และที่พบเป็นเครื่องใช้ขนาดใหญ่คือ
หลังคากูบช้าง เป็นต้น
ลวดลายที่นำมาประดับตกแต่ง
มีอยู่ 2 ลักษณะ คือ ลวดลายที่ได้รับอิทธิพลจากช่างหลวงส่วนกลาง ลายในกลุ่มนี้
ได้แก่ ลวดลายที่เป็นลายกนกต่าง ๆ ส่วนลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์เด่นชัดบ่งบอกถึงศิลปกรรมล้านนาโดยแท้
คือ เป็นลักษณ์ลวดลายกึ่งธรรมชาติ กึ่งประดิษฐ์ ซึ่งเป็นวิธีการของจิตรกรรมไทยแบบประเพณีผสมผสานกับแบบไทยใหญ่หรือพม่า
เช่น ลวดลายดอกพุดตาน ดอกกุหลาบ ผสมคละเคล้าตัวภาพสัตว์ แมลง เช่น
นก กระรอก ผีเสื้อ และสัตว์น้อยใหญ่ตามพื้นดิน นอกจากนี้ยังมีลวดลายของภาพที่ได้รับอิทธิพลจากจีน
เช่น ภาพมังกร และหงส์ เป็นต้น ส่วนภาพทวารบาลมีลักษณะ เป็นภาพทรงเครื่องแบบกษัตริย์พม่าหรือไทยใหญ่ถือ
อาวุธ ส่วนลวดลายประดับที่เป็นลายกนกมีลักษณะลวดลายใกล้เคียงกับช่างหลวงทางภาคกลาง
ไม่ว่าจะประดับตกแต่งลายคำด้วยวิธีการใดบนพื้นสีอะไรนั้น
หมายถึง มรดก ศิลปวัฒนธรรมทางด้านศิลปะอันล้ำค่าของชาวล้านนา และมรดกไทยที่ทุกคนควรจะภาคภูมิใจ
หวงแหนเพื่อสืบทอดภูมิปัญญาไทยเหล่านี้ หรือให้ชาวโลกได้ชื่นชม แต่สิ่งที่ได้พบ
และชวน หดหู่ใจ คือการเก็บรักษาในปัจจุบันส่วนใหญ่แล้วผู้ดูแลจะเก็บรักษาแบบของเก่าไร้ค่าที่ชำรุด
ผุพังและเป็นสิ่งของเก่าที่เกะกะไร้ประโยชน์ ก็เก็บไว้ในส่วนหนึ่งของมุมที่อับที่สุดในพื้นที่
หรือ บางแห่ง(ส่วนน้อย) เห็นคุณค่ามากจนต้องนำไปขังไว้ในลูกกรงเหล็ก
2 - 3 ชั้น เหมือนนักโทษที่ทำความผิดร้ายแรงเพียงเพื่อไม่ให้ขโมยกระทำการได้สะดวก
ได้พบเห็นทั้ง 2 แบบแล้ว คิดไม่ออกว่าจะภาคภูมิใจหรือหดหู่ใจน่าสมเพชเวทนากันแน่
|